หอไอเฟล เป็นหอคอยโครงสร้างเหล็ก ที่มีความสูงสง่าถึง 212 เมตร ไม่รวมเสาอากาศอีก 24 เมตร มีลิฟต์ 2 ตัว และบันได 4 ด้าน รวมทั้งภัตตาคารและหอชมวิว 3 ชั้น ซึ่งสามารถมองเห็นฝั่งแม่น้ำเเซนได้ กุสตาฟ ไอเฟล (Gustave Eiffel) สถาปนิกและวิศวกรชั้นนำของฝรั่งเศส ซึ่งค้นคว้าเกี่ยวกับแนวคิดในการออกแบบ ด้วยโครงสร้างโลหะ โดยได้ 2 วิศวกร เวอร์ริส คล็อกลิน และ เอมิล นูลจิเย เป็นผู้เริ่มแนวคิดในการสร้างหอคอยสูง 300 เมตร สำหรับงานแสดงสินค้า ซึ่งเริ่มจากการร่างแบบโครงสร้าง ของหอคอยอย่างคร่าวๆ และขอให้สถาปนิกชื่อ สตีเฟน สเตาว์เธอร์ ออกแบบส่วนตกแต่งเพิ่มเติม ให้ มีลักษณะเป็นช่อดอกไม้ โค้ง และมีประติมากรรมเล็กๆ น้อยๆ แต่กุสตาฟ ไอเฟล ได้เห็นแบบแปลนและอนุมัติทันที โดยสร้างจากแผ่นโลหะทั้งหมด ซึ่งมีขาทั้งหมด 4 ด้าน เพื่อรองรับน้ำหนักของโครงสร้างที่มีน้ำหนัก 7,000 ตัน รวมทั้งชิ้นส่วนโลหะกว่า 18,000 ชิ้น และหมุดที่ใช้ยึดโครงเหล็กอีก 2,500,000 ตัว ในการประกอบหอคอย อย่างไรก็ตาม ชาวฝรั่งเศสหลายคนกลัวว่า หอคอยแห่งนี้จะทำลายทิวทัศน์ของปารีส รวมทั้งกลุ่มศิลปินที่โจมตีว่า มันแสดงออกถึงความเอาเปรียบของยุคอุตสาหกรรม และเป็นโคมไฟที่น่าสมเพศ ที่ผลุดขึ้นมาจากปารีส แต่ภายหลังจากการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งใช้เวลา 2 ปี 2 เดือน 5 วัน ได้มีการทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2432 โดยที่ทุกคนต่างทึ่งกับหอคอยที่ตั้งอยู่ตรงหน้า จนไม่สามารถท้วงติงอะไรได้อีกเลย และกุสตาฟ ไอเฟล เป็นคนแรกที่เดินขึ้นบันไดจำนวน 1,710 ขั้น เพื่อขึ้นไปที่จุดสูงสุดของหอคอย แล้วแขวนธงชาติ 3 สีของฝรั่งเศส เมื่อมีการเปิดงานแสดงสินค้าในปี 1889 ในกรุงปารีส ซึ่งมีผลงานชิ้นเอก คือ หอคอยสูงที่สุดและงดงามที่สุด ทำให้ผู้คนได้รู้จักกับ ” หอไอเฟล ”
ชั้น 1
ชั้น 1 สูงจากพื้นราว57เมตร ด้านบนมีลานกว้าง เป็นที่ตั้งของร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก คาเฟ่ ตั้งอยู่รอบพื้นที่ตรงกลางที่กั้นด้วยกระจกใส โดยรอบด้าน สามารถมองทะลุลงไปเห็นด้านล่างอย่าแจ่มชัด บริเวรลานมีโต๊ะเก้าอี้ไม้วางไว้หลายมุม ใกล้กันจะมีบันไดไม่กี่ขั้นให้ลงไปชมวิว เป็นจุดที่สามารถเดินชมได้โดยรอบ 360 องศา แต่จะมีตาข่ายแม่เหล็กกั้นไว้ บางช่วงใช้เป็นช่วงจัดนิทรรศการอินเตอร์แอคทีฟขนาดย่อมให้ทุกท่านได้เพลิดเพลินกับเรื่องราวของหอไอเฟล
ชั้น 2
ชั้น 2 เป็นอีกจุดที่มีนักท่องเที่ยวแน่นขนัดนอกจากจะเป็นที่รวมของร้านอาหารหรู ร้านขายของที่ระลึกแล้ว ชั้นนี้ยังเป็นจุดชมวิวเมืองปารีสที่มองเห็นแม่น้ำแซนไหลผ่านได้อย่างแจ่มเวอร์ไม่แพ้ชั้นบนสุดลยค่ะ และยังสามารถมองเห็นแลนด์มาร์คอื่นๆของปารีสได้อีด้วยนะคะ
ชั้น3
ชั้น3 คือชั้นบนสุด ต้องขึ้นมาโดยใช้ลิฟฟ์เท่านั้น บนนี้เรียกว่าเป็นจุดสุดยอดวิวพาโนรามา ใครที่ไม่กลัวความสูงต้องพิชิตยอดหอไอเฟลสักครั้งในชีวิต ชมวิวชิลล์ๆ จิบแชมเปญไปชมวิวไป มีบาร์มาเปิดตั้งแต่เที่ยงวันยัน 22.00 น. ชมวิวเมืองปารีสตอนกลางวันว่าสวยแล้ว กลางคืนอลังการยิ่งกว่า
บรรยากาศหอไอเฟลตอนกลางคืน ที่ใครๆก็ต้องได้สัมผัสเมื่องมาถึงปารีส บรรยากาศสุดโรแมนตก นั่งชมแสงสีของหอไอเฟล ที่จะจัดแสดงแสงที่ต่างกันไปแต่ละเทศกาล น่าตื่นตาตื่นใจและอลังการมากเลยทีเดียวเชียวค่ะ
เครดิตรูปภาพจาก
toureiffel.paris
commons.wikimedia.org