เจนีวา (Geneva) น้ำพุเจดโด ดินแดนในฝันแห่งสวิตเซอร์แลนด์ - Grazie Travel

เจนีวา (Geneva) น้ำพุเจดโด ดินแดนในฝันแห่งสวิตเซอร์แลนด์

by Grazie Travel

เมืองเจนีวาเป็นเมืองที่เล็กที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งอยู่ริมทะเลสาบเจนีวา อยุ่ตรงทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ประชากร 1ใน3ของเจนีวาเป็นชาวต่างชาติที่มาทำงานในองค์กรณ์ระหว่างประเทศที่มีสำนักงานตั้งอยู่ในเจนีวา ซึ่งเจนีวาอยู่ในโอบล้อมของฝรั่งเศสเกือบรอบด้สนดังนั้นภาษาพูดส่วนใหญ่จะใช้ภาษาฝรั่งเศส

บริเวณนี้เป็นหัวใจของเจนีวา ใครที่เดินทางมาเจนีวาครั้งแรกจะประทับใจบรรยากาศของทะเลสาบนี้ซึ่งเป็นที่รวมทุกสิ่งทุกอย่างของเจนีวาเอาไว้ เมื่อเรามองออกไปยังทะลสาบเจนีวา เราจะเห็นน้ำพุเจ็ดโด (Jet d’eau) หรือเรียก เชโดตามสำเนียงฝรั่งเศส วันใดที่อากาศแจ่มใสท้องฟ้าปลอดโปร่งจะมองเห็นเทือกเขา มงต์บลองก์ เป็นฉากหลังของวิวทะเลสาบแสนสวย ทางเดินเรียบทะเลสาบตกแต่งไปด้วยดอกไม้ฤดูหนาว บ้านเรือนที่สวยงาม ในทะเลสาบผิวน้ำเรียบใสราวกับกระจก มีหงส์ขาวเล่นน้ำ และนกน้ำนานาพันธุ์มีอยู่มากมากมาย ซึ่งเขาจะเริ่มเปิดให้ชมทุกวันตั่งแต่เวลา 10.00น เป็นต้นไป โดยน้ำพุแห่งนี้เป็นสัญลักษณ์อยู่คู่เจนีวามาร้อยปีแล้ว ซึ่งวัตถุประสงค์ของการสร้างน้ำพุเมื่อปี 1886 ก็เพื่อให้ช่วยลดเรืองดันในระบบน้ำของเมืองที่ผันน้ำขึ้นไปใช้จากทะเลสาบ น้ำพุส่งน้ำสายพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าในปริมาณ 500 ลิตร ต่อวัน สูง 140 เมตร/วินาที ด้วยแรงดัน 200กิโลเมตรต่อชั่วโมง ชาวเมืองเรียกกันว่าน้ำพุจรวด นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเจนีวา มักพากันถ่ายรูปกับน้ำพุนี้ให้ติดกลับไปเป็นที่ระลึกจนกลายเป็นสัญลักษณ์ของเจนีวาไปในที่สุด

ย่านเมืองเก่าเจนีวา (Old Town)

เขตเมืองเก่าประกอบด้วยถนนสายหลักคือ Grand-Rue เป็นที่ตั้งบ้านเรือนและอาคารเก่าแก่ ศาลาว่าการเมือง ในสมัยโรมันเป็นตลาดนัดวัวควาย ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางที่ชุมนุมของชาวเจนีวาเมื่อเดิดเหตุการณ์สำคัญๆ  ซึ่งย่านนี้เคยเป็นที่อพยบของผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่หนีจากการถูกกวาดร้างจากประเทศอื่นมาอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์

นาฬิกาดอกไม้

นาฬิกาดอกไม้ เป็นผลงานชิ้นเยี่ยมที่เกิดจากการผสมผสานกันของเทคโนโลยีสมัยใหม่กับศิลปะการปลูกดอกไม้ประดับนาฬิกา ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งของกรุงเจนีวา มีดอกไม้นานาพันธุ์ถึง6,500 ชนิด ดอกไม้จะผลัดกันออกตามฤดูกาลตลอดทั้งปี  และที่สำคัญ นาฬิกาดอกไม้นี้นั้นเป็นนาฬิกาที่มีเข็มยาวที่สุดในโลกที่ยาวถึง 2.5 เมตร

อาคารสหประชาชาติ

อาคารสหประชาชาติ เป็นอาคารที่ก่อสร้างขึ้นในปี คศ. 1936 เพื่อก่อตั้งสำนักงานองค์กรสันนิบาตชาติ ซึ่งกลายมาเป็นสหประชาชาติ ปี คศ. 1946 อาคารนี้มีความสำคัญรองจากสำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติที่นิวยอร์ก ด้านหน้าเลียนแบบพระราชวังแวร์ซายส์ของฝรั่งเศส ในตัวอาคารมีห้องบรรจุผู้เข้าประชุมได้มากถึง 2,000คน เคยเป็นที่ประชุมสำคัญเกี่ยวกับสันติภาพของโลก

พิพิธภัณฑ์กาชาดสากล

เป็นสถานที่ที่บอกเล่าสิ่งที่มนุษย์ควรจะปฎิบัติต่อกัน โพดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาที่ทุกยากระหว่างสงคราม ที่นี่เคยขังนักโทษการเมืองที่เคยใช้เป็นที่คุมขังนักโทษถึง 17คน

เครดิตรูปภาพจาก
myswitzerland.com
commons.wikimedia.org