เรคยาวิก เป็นเมืองหลวงของประเทศไอซ์แลนด์ ในภาษาไอซ์แลนดิกแปลว่า “The bay of smoke” และเป็นเมืองหลวงที่ตั้งอยู่ใกล้กับขั่วโลกเหนือมากที่สุด ชาวนอร์ดิค เป็นผู้อพยพคนแรกที่มาตั้งรกรากที่เรคยาวิกในปี พ.ศ. 1413 เมื่อเรคยาวิกกลายเป็นเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการค้าและธุรกิจการประมง จึงได้มีการก่อตั้งให้เป็นเมืองหลวงในปี พ.ศ. 2329 และเนื่องด้วยความร้อนจากภายใต้พื้นโลกนั้นแสดงตัวออกมาอย่างชัดเจนที่นี่ในรูปแบบของบ่อน้ำร้อน ทำให้เมืองทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยหมอกและไอน้ำจากความร้อนใต้พื้นดิน ทำให้ประเทศไอซ์แลนด์นั้นมีชื่อเสียงโด่งดังจากธรรมชาติที่ยังคงถูกเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี อย่างเมืองหลวงเรคยาวิก ที่ถึงจะเป็นแค่เมืองเล็กๆแต่ก็มีอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจซ่อนตัวอยู่ทั่วเมือง อีกทั้งยังเป็นเมืองหลวงที่อยู่ทางเหนือที่สุดของโลกอีกด้วย หลายคนก็ชิงหนาวตั้งแต่ยังไม่ออกเดินทาง แต่บอกไว้ตรงนี้เลยว่า ไอซ์แลนด์ไม่ได้หนาวอย่างที่จินตนาการกันไว้เพราะถ้าว่ากันตามหลักภูมิศาสตร์ ไอซ์แลนด์เป็นเกาะที่อยู่ในระนาบของไอหนาวก็จริง ตัวเกาะทอดตัวอยู่ใต้เส้นอาร์กติก จึงมีช่วงเดือนร้อนที่แสนสั้น และมีช่วงเดือนหนาวที่แสนยาวนาน แต่ถึงจะหนาวก็ไม่หนาวอย่างน่าสยดสยอง นั่นเพราะไอซ์แลนด์มีทั้งกระแสน้ำอุ่นไหลผ่าน และมีน้ำพุพวยพุ่งขึ้นจากใต้บาดาล เรียกว่ามีโลกใต้ดินที่มหัศจรรย์ไม่แพ้ทุ่งน้ำแข็ง ที่เที่ยวเยอะแยะมากมายให้เราได้ไปเชคอิน เก็บภาพสวยๆ ไปดูกันเลยว่ามาเรคยาวิกแล้วควรไปที่ไหนกันบ้าง
1.โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา Hallgrímskirkja
โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา Hallgrímskirkja เป็นโบสถ์สูงของเมืองเรคยาวิค มีความสูงทั้งสิ้น 74.5 เมตร เป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุด และเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดเป็นอันดับหกในประเทศไอซ์แลนด์ สร้างโดยสถาปนิกนามว่า Guðjón Samúelsson ในปีค.ศ.1945-1986 ซึ่งรวมระยะเวลาการก่อสร้างนานถึง 38 ปี ซึ่งโบสถ์แห่งนี้ตั้งชื่อตามชื่อของ ฮัลล์กรีมูร์ เพทูร์สซอน กวีและนักบวชชาวไอซ์แลนด์ ภายใต้การออกแบบสถาปัตยกรรมแบบเอ็กซ์เพรสชันนิสต์ โบสถ์สูงแห่งนี้ถือว่ามีสถาปัตยกรรมที่มี เอกลักษณ์ และเป็นศาสนสถานที่สำคัญของชาวไอซ์แลนด์นับเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนประเทศไอซ์แลนด์แล้วจะพลาดไม่ได้ โดยสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองที่สวยงามของประเทศไอซ์แลนด์ได้ โดยมีลิฟท์ให้บริการขึ้นไปสู่ยอดหอระฆัง (Bell Tower) ที่มีจุดชมวิวภายนอกแบบเปิดโล่ง (Open-air Observation Deck) โดยสามารถชมทัศนียภาพอันสวยงามของบ้านเมืองในนครเรกยาวิก ได้ด้วยคะ
2. ฮาร์ปา คอนเสิร์ต ฮอลล์ Harpa concert hall
ชมงานออกแบบระดับมาสเตอร์พีซและที่เป็นแลนด์มาร์คอันทันสมัยของเมืองเรคยาวิกที่คอนเสิร์ตฮอลล์และศูนย์ประชุม Harpa ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาคารแห่งนี้เปิดตัวขึ้นในปี 2011 โดยมีโครงสร้างร่วมสมัยสำหรับจัดการบรรยาย การแสดง งานนิทรรศการและการประชุมต่างๆ ชมการทัวร์คอนเสิร์ตหรืองานนิทรรศการอันน่าหลงใหล ซึ่งเป็นผลงานของศิลปินท้องถิ่น ตัวอาคารเป็นรูปทรงเลขาคณิตและสร้างด้วยกระจก จึงทำให้สะท้อนแสงแดดอย่างงดงาม ส่วนด้านในอาคารเพื่อดูการตกแต่งด้วยกระจกและมองวิวของผืนน้ำริมท่าเรือที่ใสราวกระจก นักแสดงในท้องถิ่นที่แสดงภายในอาคาร Harpa อันงดงามแห่งนี้มีทั้งคณะซิมโฟนีออเคสตร้าแห่งไอซ์แลนด์ คณะโอเปร่าไอซ์แลนด์ และวงดนตรี Reykjavik Big Bandอีกด้วย
3.ซัน โวยาจ (Sun Voyager)
เป็นจุดสนใจยอดฮิตที่ตั้งอยู่บนเลียบชายฝั่งทะเลใกล้กับฮาร์ปาร์คอนเสิร์ตฮอลล์ รูปปั้นที่เรียงรายมุ่งตรงไปยังภูเขาเอสจันเหล่านี้ถือเป็นทัศนียภาพ(Mt Esjan)ที่สวยงามมาก มาแล้วต้องเดินเลียบชายหาดมาถ่ายภาพกันตรงนี้เลยค่ะ