เมื่อพูดถึงประเทศอังกฤษคงไม่มีเมืองใดที่มีสะท้อนความเป็นอังกฤษได้โดดเด่นเท่ากับ “ลอนดอน” เมืองหลวงสุดคลาสสิคที่นักเดินทางทั่วโลกถวิลหา ลอนดอน เป็นเมืองครบเครื่องทางการท่องเที่ยวที่มากไปด้วยสรรพสิ่งชวนชม ไม่ว่าจะเป็น ตึกรามบ้านเรือน พระราชวัง พิพิธภัณฑ์ สะพาน อนุสาวรีย์ โบสถ์ โรงละคร โรงโอเปร่า สวนสาธารณะ แหล่งช้อปปิ้ง ผับ และอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ในลอนดอนยังมีย่านอันหลากหลายที่มีอัตลักษณ์ มีบรรยากาศเฉพาะตัวให้ชวนค้นหา ไม่ว่าจะเป็น ย่านเวสต์มินเตอร์ ที่โดดเด่นไปด้วยสถานราชการอย่างไวท์ฮอลล์และอาคารรัฐสภา ย่านเคนซิงตัน ที่มีพิพิธภัณฑ์ระดับโลก ย่านเซลซี สำหรับหนุ่มสาวที่มีอารมณ์ศิลปิน ย่านโซโหอันเป็นย่านคนจีนในลอนดอน ย่านเวสต์เอนด์ ย่านแหล่งช้อปปิ้งและแหล่งบันเทิง เป็นต้น วันนี้เราจะมาแนะนำ 6 สถานที่ท่องเที่ยวจุดเช็คอินของลอนดอนที่ไม่ควรพลาด !!
1. หอนาฬิกาบิกเบน (Big Ben)
หอนาฬิกาบิกเบน หนึ่งในสัญลักษณ์ที่รู้จักมากที่สุดของสหราชอาณาจักร อันที่จริงหอนาฬิกานี้ชื่อว่า หอเอลิซาเบธ (Elizabeth Tower) แต่ทุกคนมักจะรู้จักกันดีในชื่อของ บิกเบน (Big Ben) มากกว่าเป็นหอนาฬิกาประจำพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ (Clock Tower, Palace of Westminster) ของประเทศอังกฤษหนึ่งในประเทศมหาอำนาจ ซึ่งเคยสร้างความยิ่งใหญ่เกรียงไกรไว้บนโลกใบนี้อย่างมากมาย และจวบจนปัจจุบันนี้ยังได้มีหลายสิ่ง ให้ต้องจดจำจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ จะมีสิ่งใดกันเล่าที่ทำให้ทุกท่านได้คิดถึงกรุงลอนดอนแห่งนี้นอกจากสัญลักษณ์แห่งความอลังการ
เพราะสิ่งนั้นคือ หอนาฬิกาบิกเบน ความสำคัญที่ควบคู่มาด้วยกันกับการที่เป็นสถานที่ตั้งของรัฐสภาของอังกฤษ ซึ่งในปัจจุบันใช้เป็นรัฐสภาอังกฤษตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง หอนาฬิกานี้ถูกสร้างหลังจากไฟไหม้พระราชวังเวสต์มินสเตอร์เดิม เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2377 โดยชาลส์ แบร์รี เป็นผู้ออกแบบ
มีสิ่งหนึ่งที่จนถึงปัจจุบันนี้ คาดว่าหลายท่านอาจจะมีความเข้าใจผิดคิดว่าหอนาฬิกา Big Ben เป็นชื่อของหอนาฬิกาประจำ และรัฐสภาอังกฤษในความเป็นจริงแล้ว Big Ben ได้มีความหมายที่ยิ่งใหญ่มากมายไปกว่านั้นก็คือเป็นชื่อเล่นของระฆังขนาดยักษ์ใบที่ใหญ่ที่สุดของโลกใบนี้ และ นับได้ว่าเป็นนาฬิกาเรือนที่ใหญ่ที่สุดและมีความสำคัญที่สุดอีกด้วย เพราะ เป็นศูนย์ควบคุมเวลาของโลกใบนี้ อีกทั้งยังเป็นตัวกำหนดมาตรฐานของเวลา ซึ่งเป็นเครื่องมือหลักๆในการวัดเวลาของโลก
2. ลอนดอนอาย London Eye
ลอนดอนอาย ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญอีกแห่งหนึ่งของประเทศอังกฤษ มีลักษณะที่สวยงามโดดเด่นเเละเเปลกตาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเเห่งใหม่อีกแห่งหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวได้เก็บภาพประทับใจของกรุงลอนดอนที่สามารถชมวิวได้แบบ 360 องศาโดยไม่มีอะไรมาบดบัง จนเป็นเสน่ห์และเป็นจุดเช็คอินอีกสถาณที่แห่งหนึ่งที่ไม่ควรพลาดค่ะ ตั้งอยู่ ณ ที่ฝั่งสุดด้านตะวันตกของสวนจูบิลี่ บนริมฝั่งทางใต้ของแม่น้ำเทมส์ ในกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ตั้งอยู่ระหว่างสะพานเวสต์มินสเตอร์กับสะพานฮันเกอร์ฟอร์ด โดยสถานที่แห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งของโดมแห่งการค้นพบ ที่เคยสร้างขึ้นเพื่อใช้ในงานนิทรรศการเฟสติวัล ออฟ บริเตน ในปี ค.ศ. 1951 มีความสวยงามเเละกระเเสของชิงช้าที่ไปปรากฏในภาพยนตร์ดังอย่าง แฟนแทสติกโฟร์ เเละ แฮรี่ พอตเตอร์ ทำให้กลายมาเป็นเเหล่งท่องเที่ยวที่รองรับจำนวนนักท่องเที่ยวกว่า 3.5 ล้านคนต่อปี ที่ขึ้นไปชมความสวยงามของกรุงลอนดอนเเบบ 360 องศา โดยวิวทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นนั้นไกลออกไปถึง 40 กิโลเมตรเลยทีเดียวในวันที่อากาศเเจ่มใส เพราะความสูงกว่า 135 เมตร ทำให้ ลอนดอนอาย กลายเป็นชิงช้าสวรรค์ชมทิวทัศน์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปเลยทีเดียว
3. พระราชวังบัคกิ้งแฮม Buckingham Palace
ถือเป็นอีกหนึ่งสถาปัตยกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวชั้นนำของโลกที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดชมความยิ่งใหญ่อลังการของที่นี่ เพราะนอกจากจะเป็นพระราชฐานที่มีชื่อเสียงที่สุดของบริเตน ยังเป็นที่ประทับส่วนพระองค์และที่ทรงงานสุดหรูหราของสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 อีกด้วยนะคะ ซึ่งหลายปีมานี้ทางพระราชวังก็เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมความโอ่อ่า พร้อมศึกษาความเป็นมาของราชวงศ์อังกฤษอย่างใกล้ชิดอีกด้วย เป็นพระราชฐานอย่างเป็นทางการของราชวงศ์อังกฤษนับตั้งแต่ ค.ศ. 1837 และเป็นศูนย์กลางของระบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญของอังกฤษ ใช้ประกอบพิธีกรรมสำคัญ จัดงานสมาคมอันหรูหรา และจัดงานเลี้ยงต้อนรับบุคคลสำคัญของราชวงศ์อยู่เสมอ แถมยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทำให้โดดเด่นและดูเลอค่ามากๆ เลยค่ะ
ในแต่ละปีทางพระราชวังบัคกิ้งแฮมจะเปิดให้เข้าชมแค่ 2 เดือนเท่านั้น คือช่วงสิงหาคม-กันยายน ซึ่งตรงกับช่วงที่สมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 เสด็จแปรพระราชฐานไปยังสก็อตแลนด์ ไฮไลท์เด็ดอีกอย่างของการเยี่ยมชมพระราชวังแห่งนี้คือ การรอชมพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารรักษาพระองค์ (Changing the Guard) เราจะได้รับชมการแสดงทั้งหมด 40 นาที ในวันที่กำหนดไว้แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ในวันที่มีเหตุการณ์สำคัญ ๆ ของเมืองหรืออาจจะงดได้ในวันที่ฝนตก พิธีนี้สวยงาม สง่า แสดงถึงความมีระเบียบวินัยของทหารอังกฤษสุดเป๊ะ บอกเลยว่าใครที่กำลังวางแผนจะไปเที่ยวเมืองผู้ดี เช็ค ตารางวันให้ดีไม่อยากให้พลาดโอกาสดี ๆ แบบนี้ค่ะ
4. หอคอยแห่งลอนดอน (Tower of London)
สถานที่อีกหนึ่งเป็นแหล่งรวมประวัติศาสตร์ที่กล่าวขานกันมาอย่างช้านาน ที่ทุกคนรู้จักกันดีในนามของหอขาว หรือ Tower of London เป็นพระราชวังหลวงและป้อมปราการตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำเทมส์ในกรุงลอนดอนในอังกฤษ เป็นพระราชวังที่เดิมสร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1078 เป็นสถาปัตยกรรมแบบโรมาเนสก์ พระราชวังเป็นรู้จักกันในนามว่า “หอคอยแห่งลอนดอน” หรือ “หอ” ในประวัติศาสตร์ ตัวปราสาทตั้งอยู่ภายในโบโรแห่งทาวเวอร์แฮมเล็ทส์และแยกจากด้านตะวันออกของนครหลวงลอนดอน (City of London) ด้วยลานโล่งที่เรียกว่าเนินหอคอยแห่งลอนดอน หรือ “ทาวเวอร์ฮิล” (Tower Hill)
หอคอยแห่งลอนดอนมักจะรู้จักกันในการเกี่ยวข้องกับหอขาว (White Tower) ซึ่งแต่เดิมเป็นหอสีขาวที่สร้างโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษในปี ค.ศ. 1078 แต่กลุ่มสิ่งก่อสร้างทั้งหมดของหอคอยแห่งลอนดอนตั้งอยู่รอบวงแหวนสองวงภายในกำแพงและคูป้องกันปราสาท ตัวหอคอยใช้เป็นป้อม พระราชวังของพระมหากษัตริย์ และที่จำขังโดยเฉพาะสำหรับนักโทษที่มียศศักดิ์สูงเช่นพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 1ก็เคยทรงถูกจำขังในหอคอยโดยพระราชินีนาถแมรี และยังเป็นที่สำหรับประหารชีวิตและทรมาน คลังเก็บอาวุธ ท้องพระคลัง สวนสัตว์ โรงกษาปณ์หลวง หอเก็บเอกสาร หอดูดาว และตั้งแต่ปี ค.ศ. 1303 เป็นที่เก็บรักษามงกุฏและเครื่องราชาภิเษกของสหราชอาณาจักร
5. Tower Bridge
เป็นสะพานที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสัญลักษณ์ของกรุงลอนดอน เป็นสะพานยกและสะพานแขวนอยู่รวมกัน ทั้งยังประกอบไปด้วยหอคอย 2 หอ จึงทำให้สะพานแห่งนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานหอคอย สะพานสีขาว-ฟ้า ที่ใช้ข้ามแม่น้ำเทมส์มีชื่อว่า Tower Bridge แห่งนี้ ตัวสะพานมีมีอายุมากกว่า 120 ปี สร้างขึ้นมาเพื่อในเป็นเส้นทางในการจราจรของลอนดอน โดยสร้างเสร็จในปี ค.ศ.1894 ใช้เวลาในการก่อสร้างนานถึง 8 ปีเลยทีเดียว เเละความโดดเด่นก็อยู่ที่หอคอยคู่ที่เป็นรูปเเบบสถาปัตยกรรมโกธิคที่สวยงามเเละสอดรับกับหอคอยลอนดอน ทำให้ทิวทัศน์ในย่านนี้มีความสวยงามเเละสอดรับกันไปทั้งหมดเลยทีเดียว โดยในเเต่ละวันนั้นมีการนับสถิติกันว่ามีรถยนต์เเล่นผ่านสะพานเเห่งนี้กว่า 4,000 คัน เเละมีการยกสะพานขึ้นเพื่อให้เรือเเล่นผ่านกว่า 50 ครั้งต่อวัน
บนชั้นสองของสะพานเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ด้วยนะคะ โดยเสียค่าราคาขึ้นชมนิทรรศการของสะพานคือ 9 ปอนด์ ถ้าอยากเห็นวิวสวยๆ ของกรุงลอนดอน แนะนำให้ขึ้นไปดูได้ที่นี่เลยค่ะ สะพานแก้ว Glass Floor เค้าจัดแสดงประวัติการก่อสร้างไว้ดี แถมยังเปิดให้ดูห้องเครื่องยนต์ที่ใช้เปิดปิดสะพานได้อีกด้วย สิ่งที่ผู้มาเยือนสะพาน Tower of London ประทับใจเป็นอันดับแรกๆ น่าจะเป็นสะพานแก้วที่มองทะลุลงไปยังถนนและแม่น้ำเทมส์ด้านล่างได้นี่ล่ะค่ะ สะพานแก้วนี้ถูกเจาะเป็นทางเดินสั้นๆ ซึ่งจะได้เห็นวิวสวยๆ จากด้านบนสะพาน
6.โรงถ่ายแฮรี่ พอตเตอร์ “Warner Bros Studio Tour London The Making of Harry Potter
สถานที่ท่องเที่ยวสุดฟิน ของสาวกแห่งโลกเวทมนตร์ที่คุณจะได้พบกับฉากถ่ายทำจริงจากภาพยนตร์ เรื่องดัง แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ครองใจคนทั่วโลกตลอดกาล โรงถ่ายแฮรี่ พอตเตอร์ ตั้งอยู่ที่เมือง Watford ประเทศอังกฤษ โดยห่างจากลอนดอน 40 กิโลเมตร สตูดิโอแห่งนี้เป็นหนึ่งในสตูดิโอในประเทศอังกฤษที่สามารถผลิตภาพยนตร์ระดับใหญ่ได้ มีพื้นที่ประมาณ 50,000 ตารางเมตร
สถานที่ตรงนี้มีชื่อว่า Leavesden Aerodrome เดิมเป็นโรงงานผลิตเครื่องบินในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ก่อนที่Warrner Bros จะมาซื้อที่นี่และก่อตั้งเป็นโรงถ่ายภาพยนตร์ Harry Potter ภาพยนตร์เรื่อง Harry Potterทั้ง 7 ภาค ถูกสร้างขึ้นที่สตูดิโอแห่งนี้ การมาเที่ยวตามรอย Harry Potterที่โรงถ่ายแห่งนี้จะได้เห็นฉากสำคัญต่างๆในภาพยนตร์ อุปกรณ์ประกอบฉาก เครื่องแต่งกายนักแสดง สิ่งของเครื่องใช้ในภาพยนตร์ และมีของที่ระลึกสำหรับสาวกพ่อมดแม่มดน้อยด้วย
เครดิตรูปภาพ
commons.wikimedia.org