กรินเดอวาลด์ (Grindelwald) – ประวัติศาสตร์หมู่บ้านบนเทือกเขาแอลป์สวิตเซอร์แลนด์

กรินเดอวาลด์ (Grindelwald) – หมู่บ้านเทพนิยายกลางเทือกเขาแอลป์

by Grazie Travel

ท่ามกลางอ้อมกอดของเทือกเขาแอลป์อันยิ่งใหญ่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ราวกับหลุดออกมาจากเทพนิยายซ่อนตัวอยู่ ‘กรินเดอวาลด์’ (Grindelwald) คือปลายทางในฝันของนักเดินทางทั่วโลก ที่นี่ไม่ได้เป็นเพียงหมู่บ้านที่งดงาม แต่ยังเป็นประตูสู่การผจญภัยอันน่าตื่นเต้นและทิวทัศน์ธรรมชาติที่จะทำให้คุณลืมหายใจ

กรินเดอวาลด์ตั้งอยู่ในหุบเขาที่เขียวขจี โดยมีฉากหลังเป็นสามยอดเขาอันโด่งดัง ได้แก่ ไอเกอร์ (Eiger), เมินช์ (Mönch) และยุงเฟรา (Jungfrau) ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO ภาพของบ้านไม้ทรงชาเล่ต์สวิสแบบดั้งเดิมที่ประดับด้วยกระถางดอกไม้หลากสีสันตัดกับทุ่งหญ้าอัลไพน์และยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ เป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้ผู้คนมาเยือนอย่างไม่ขาดสายในทุกฤดูกาล

จุดเริ่มต้นในยุคกลาง

ชื่อ “Grindelwald” ปรากฏในเอกสารทางประวัติศาสตร์ครั้งแรกเมื่อปี 1146 ในเอกสารของอารามเมืองอินเตอร์ลาเคน (Interlaken Monastery) โดยในเวลานั้นพื้นที่แห่งนี้เป็นเพียงหมู่บ้านเกษตรกรรมเล็ก ๆ ชาวบ้านส่วนใหญ่เลี้ยงสัตว์ ทำฟาร์ม และใช้ชีวิตเรียบง่ายท่ามกลางหุบเขา

เนื่องจากภูมิประเทศมีหุบเขาลึกและภูเขาสูงตระหง่าน หมู่บ้านนี้จึงมีบทบาทสำคัญในฐานะเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างผู้คนที่อาศัยอยู่ในเขต Bernese Oberland และหุบเขาใกล้เคียง

การท่องเที่ยวในศตวรรษที่ 19

แม้จะเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่กรินเดอวาลด์ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อ นักเดินทาง นักผจญภัย และนักปีนเขา จากอังกฤษและเยอรมนี เดินทางมาเพื่อพิชิตยอดเขาไอเกอร์ (Eiger) และยอดเขาอื่น ๆ ที่โอบล้อมหมู่บ้าน

การสร้างทางรถไฟ Wengernalpbahn (1893) และต่อมาคือ Jungfraubahn (1912) ได้เปลี่ยนแปลงหมู่บ้านอย่างสิ้นเชิง เพราะเปิดประตูต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ทำให้กรินเดอวาลด์จากหมู่บ้านเกษตรกรรมค่อย ๆ กลายเป็น เมืองท่องเที่ยวระดับนานาชาติ

กรินเดอวาลด์ในศตวรรษที่ 20–21

ในช่วงศตวรรษที่ 20 กรินเดอวาลด์กลายเป็น รีสอร์ตฤดูหนาวยอดนิยม สำหรับการเล่นสกีและสโนว์บอร์ด และในฤดูร้อนก็เป็นจุดหมายของนักเดินป่าและนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติบริสุทธิ์

ปัจจุบัน กรินเดอวาลด์ยังคงรักษาเอกลักษณ์บ้านไม้ชาเลต์และบรรยากาศหมู่บ้านดั้งเดิมไว้ ขณะเดียวกันก็พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กระเช้า Eiger Express และกิจกรรมท่องเที่ยวที่ทันสมัย ทำให้หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้เป็นทั้งจุดหมายเชิงประวัติศาสตร์และศูนย์กลางการท่องเที่ยวของแอลป์สวิส

ฤดูร้อน: สวรรค์ของนักผจญภัย

เมื่อหิมะละลายและทุ่งหญ้าเปลี่ยนเป็นสีเขียวสด กรินเดอวาลด์จะกลายร่างเป็นสวรรค์ของคนรักกิจกรรมกลางแจ้ง เส้นทางเดินป่าและปั่นจักรยานเสือภูเขามีให้เลือกนับร้อยเส้นทาง ตั้งแต่เส้นทางง่ายๆ สำหรับครอบครัวไปจนถึงเส้นทางสุดท้าทายสำหรับนักปีนเขามืออาชีพ

หนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการขึ้นไปยัง กรินเดอวาลด์-เฟียสต์ (Grindelwald-First) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “Top of Adventure” คุณสามารถท้าทายความกล้ากับ First Cliff Walk by Tissot สะพานแขวนริมหน้าผาที่ให้คุณได้เดินชมวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาสุดระทึกใจ หรือจะเลือกเหินฟ้าชมวิวกับ First Flieger (ซิปไลน์) และ First Glider (เครื่องร่อน) ก่อนจะปิดท้ายความสนุกด้วยการขี่ Mountain Cart และ Trottibike Scooter ลงมาจากยอดเขา

ฤดูหนาว: ดินแดนสีขาวแห่งความฝัน

เมื่อลมหนาวมาเยือน กรินเดอวาลด์จะถูกปกคลุมไปด้วยปุยหิมะสีขาวโพลน กลายเป็นลานสกีและสโนว์บอร์ดขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่สกียุงเฟรา (Jungfrau Ski Region) ซึ่งมีเส้นทางสกีกว่า 200 กิโลเมตรให้เลือกเล่นได้ตามความสามารถ ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมือโปร ก็สามารถเพลิดเพลินกับกีฬาฤดูหนาวได้อย่างเต็มที่

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น การเดินป่าบนหิมะ (Winter Hiking), การเล่นรถเลื่อนหิมะ (Sledging) บนเส้นทางที่ยาวที่สุดในยุโรป หรือเพียงแค่นั่งจิบช็อกโกแลตร้อนๆ ในคาเฟ่บรรยากาศอบอุ่นพลางชมวิวหิมะที่โปรยปราย ก็เป็นความสุขที่เรียบง่ายแต่ยากจะลืมเลือน

ประตูสู่ “Top of Europe”

กรินเดอวาลด์เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการเดินทางสู่ ยุงเฟรายอค (Jungfraujoch) สถานีรถไฟที่สูงที่สุดในยุโรป หรือที่รู้จักกันในนาม “Top of Europe” ด้วยรถไฟสายภูเขาและกระเช้าลอยฟ้า Eiger Express คุณจะได้เดินทางผ่านอุโมงค์ที่เจาะทะลุภูเขาไอเกอร์และเมินช์ ขึ้นไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์และชมทิวทัศน์ 360 องศาของธารน้ำแข็งอาเล็ทช์ (Aletsch Glacier) ที่ยาวที่สุดในเทือกเขาแอลป์ และยอดเขาที่เรียงรายสุดลูกหูลูกตา

สรุป

กรินเดอวาลด์ไม่ได้เป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางภูเขา แต่ยังสะท้อนให้เห็นถึง การเดินทางของกาลเวลา ตั้งแต่ชุมชนเกษตรกรรมยุคกลาง การปฏิรูปศาสนา การมาถึงของนักผจญภัยยุคศตวรรษที่ 19 จนถึงการเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกในปัจจุบัน

จึงกล่าวได้ว่า กรินเดอวาลด์คือ หมู่บ้านที่เก็บร่องรอยประวัติศาสตร์และวิวัฒนาการของมนุษย์และธรรมชาติไว้ในที่เดียว