สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพระหว่างประเทศไทยและสวิตเซอร์แลนด์
ท่ามกลางสวนสาธารณะอันเงียบสงบริมทะเลสาบเลมอง (Lac Léman) ในเมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีสถาปัตยกรรมไทยอันงดงามตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ — “ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ” (Le Pavillon Thailandais) สถานที่ที่ไม่เพียงแต่สะท้อนศิลปวัฒนธรรมอันประณีตของไทย แต่ยังเป็นอนุสรณ์แห่งพระมหากรุณาธิคุณ และมิตรภาพระหว่างสองประเทศที่ยาวนานกว่า 75 ปี

จุดเริ่มต้นของศาลาไทยในต่างแดน
แนวคิดการสร้างศาลาไทยแห่งนี้เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2549 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช (รัชกาลที่ 9) ในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี และเพื่อเป็นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่าง ประเทศไทยและสมาพันธรัฐสวิส ครบรอบ 75 ปี
ศาลาแห่งนี้จึงไม่ใช่เพียง “สิ่งปลูกสร้าง” หากแต่เป็น สัญลักษณ์แห่งมิตรภาพ ความผูกพัน และความทรงจำ ระหว่างทั้งสองประเทศที่มีรากลึกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมร่วมกัน

ความผูกพันของราชวงศ์ไทยกับเมืองโลซานน์
เมืองโลซานน์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อราชวงศ์ไทย โดยเป็นสถานที่พำนักของ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พร้อมด้วยพระราชโอรสและพระราชธิดา รวมทั้ง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เมื่อครั้งทรงพระเยาว์
ครอบครัวราชสกุลมหิดลประทับอยู่ในเมืองโลซานน์เป็นเวลาราว 18 ปี เมืองนี้จึงเปรียบเสมือน “บ้านหลังที่สอง” ของในหลวงรัชกาลที่ 9 และเป็นสถานที่ที่พระองค์ทรงเจริญวัย ศึกษา และทรงผูกพันเป็นอย่างยิ่ง

ศิลปะและสถาปัตยกรรมแห่งความงามแบบไทย
ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติแห่งนี้ตั้งอยู่ใน สวนสาธารณะ Parc de Denantou สวนริมทะเลสาบที่เงียบสงบและรายล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ ตัวศาลาเป็นสถาปัตยกรรมแบบ จัตุรมุข ใช้ไม้สักและไม้ตะเคียนแกะสลักอย่างประณีต

หลังคาทรงไทยประดับด้วย ช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ สีทองอร่ามตัดกับฉากหลังของภูเขาและทะเลสาบ เป็นภาพที่งดงามจับตา ศาลามีความสูงประมาณ 16 เมตร น้ำหนักกว่า 27 ตัน และถูกประกอบขึ้นโดยช่างฝีมือจากประเทศไทย ก่อนจะขนส่งมาประกอบใหม่ที่โลซานน์

พิธีเปิดอย่างเป็นทางการจัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2550 โดยมีผู้แทนรัฐบาลทั้งสองประเทศเข้าร่วม ถือเป็นหมุดหมายสำคัญของความสัมพันธ์ไทย–สวิตเซอร์แลนด์ในยุคใหม่
สิ่งที่นำความปลาบปลื้มใจมาสู่พสกนิกรชาวไทยที่อาศัยอยู่ในสวิตเซอร์แลนด์คือ เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2552 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ได้เสด็จพระราชดำเนินมายังเมืองโลซานน์เป็นการส่วนพระองค์เพื่อทรงประกอบพิธีเปิดศาลาไทยอย่างเป็นทางการ คนไทยที่เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาทจึงได้ชื่นชมพระบารมีของพระองค์ท่านด้วยความปีติยินดี

ความหมายและคุณค่าทางจิตใจ
ศาลาไทยในโลซานน์ไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม หากยังเป็น อนุสรณ์แห่งพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงสร้างความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศ
สำหรับชาวไทยที่เดินทางไปเยือนโลซานน์ ศาลาแห่งนี้เปรียบเสมือน “มุมหนึ่งของแผ่นดินไทย” ในต่างแดน เป็นที่พักใจและระลึกถึงบ้านเกิด ในขณะเดียวกัน ชาวสวิสจำนวนมากก็ชื่นชมในความงดงามของสถาปัตยกรรมไทย และยกย่องให้ศาลาแห่งนี้เป็นหนึ่งใน แลนด์มาร์กของเมืองโลซานน์

ปัจจุบันและการเยี่ยมชม
ปัจจุบันศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติตั้งอยู่ในพื้นที่สาธารณะ เปิดให้ประชาชนเข้าชมได้ทุกวันโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางจากตัวเมืองโลซานน์มาที่สวน Denantou ได้สะดวก ทั้งรถบัสและการเดินเท้า
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเยี่ยมชมคือยามบ่ายหรือเย็น แสงอาทิตย์ตกกระทบหลังคาทองของศาลา สะท้อนกับผืนน้ำของทะเลสาบเลมอง — เป็นภาพที่ทั้งสงบและเปี่ยมด้วยความงดงามในแบบ “ไทยกลางยุโรป” อย่างแท้จริง

สรุป
ศาลาไทยเฉลิมพระเกียรติ เมืองโลซานน์ คือ อนุสรณ์แห่งพระราชไมตรี ศิลปวัฒนธรรม และความทรงจำร่วมกันระหว่างสองประเทศ
สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงบอกเล่าเรื่องราวในอดีตของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของชาวไทย แต่ยังเป็นบทพิสูจน์ว่า “ความงดงามของศิลปะไทย” สามารถข้ามพรมแดน และเปล่งประกายในหัวใจของผู้คนทั่วโลกได้อย่างแท้จริง