มิวนิค (Munich) เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของ ประเทศเยอรมนี รายล้อมไปด้วยสถาปัตยกรรมที่งดงาม กลิ่นอายบาวาเรียโดยตัวเมืองมิวนิคนั้นตั้งอยู่บนแม่น้ำอิซาร์ เหนือเทือกเขาแอลป์ นอกจากทิวทัศน์สวยงาม สถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีความมั่งคั่งทางศิลปะวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรม มิวนิคนั้นยังขึ้นชื่อเรื่องเมนูอาหารที่มาถึงมิวนิคแล้วห้ามพลาด กับขาหมูเยอรมัน และเบียร์เพราะมิวนิคนั้นขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองหลวงของเบียร์เยอรมัน เห็นได้จากการจัดงาน Oktoberfest เทศกาลเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดของโลก ที่จะจัดขึ้นในเมืองมิวนิค โดยมีนักดื่มจากทั่วโลกเข้าร่วมงานรื่นเริงนี้ ทำให้ใคร ๆอดที่จะหลงรัก มิวนิคไม่ได้ เพราะนอกจากจะมีบรรยากาศดีเหมาะแก่การเดินเล่น ถ่ายรูปมาก ๆ นอกจากนี้ ยังเป็นเมืองที่มีถนนคนดินเยอะมาก ถนนแต่ละสายเต็มไปด้วยร้านค้าที่มีตั้งแต่สินค้าแบรนด์ดังไปจนถึงงานฝีมือที่ออกแบบโดยดีไซเนอร์ท้องถิ่น เรียกว่าเป็นหนึ่งในเมืองที่ช้อปปิ้งสนุกที่สุดในยุโรป
ความน่าสนใจของเมืองมิวนิคอยู่ที่ ความเจริญรุ่งเรืองทันสมัยที่ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ แม้ก้าวไปข้างหน้าแต่ก็ไม่เคยลืมประวัติศาสตร์เบื้องหลัง หลายอาคาร หรือหลายสถานที่ยังคงฝากเรื่องราวเก่าแก่เอาไว้ ได้รับการดูแลรักษา อนุรักษ์ และเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ ผู้คนที่ไปเที่ยวมิวนิค จึงไปเพื่อชมความงามของสถาปัตยกรรมที่บอกความรุ่งเรืองในอดีต มีเบื้องหลังความงามให้ศึกษาเรียนรู้ ได้ชมศิลปะโบราณหลายแขนง ได้ระลึกถึงมิวนิคในอดีต
จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz) แลนด์มาร์คใจกลางเมืองมิวนิค
จัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ (Marienplatz) มารีเอินพลัทซ์ หรือ จัตุรัสพระแม่มารี เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงที่สุดในกรุงมิวนิค และถือเป็นจุดเริ่มต้นสำหรับคนที่มาท่องเที่ยวในมิวนิค จัตุรัสแห่งนี้อยู่ใจกลางเมืองของนครมิวนิคสร้างขึ้น ค.ศ. 1158 และยังเป็นที่ตั้งของ มารีเอินซ็อยเลอ หรือเสาอนุสรณ์พระแม่มารีซึ่งตั้งตระหง่านที่จัตุรัสแห่งนี้มาตั้งแต่ ค.ศ. 1638 และก่อนจะมาเป็นจัตุรัสกลางเมืองที่เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของมิวนิค สถานที่แห่งนี้เคยเป็นตลาด Viktualienmarkt มา ก่อนที่จะถูกย้ายไปตั้งในบริเวณที่ใหญ่ขึ้นในปี 1807 ในบริเวณจัตุรัสประกอบไปด้วย ศาลากลางเก่าที่มีซุ้มประตูและหอคอย ศาลาว่าการ New Town สถาปัตยกรรมเสารูปปั้นของพระแม่มารีสีทอง น้ำพุปลา และหอคอย Glockenspiel ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ถูกสร้างเอาไว้ในศาลากลางแห่งนี้ ตรงส่วนที่เป็นโซนสูงที่สุดของอาคารชุดนี้ หากสังเกตระยะไกล ตำแหน่งที่ตั้งของตุ๊กตาดนตรีจะอยู่ตรงจุดที่เป็นสีเขียว ตุ๊กตาเหล่านี้ทำจากทองแดง มีทั้งสิ้น 32 รูป และจะมีเสียงระฆังดนตรีประกอบการเต้นของตุ๊กตาสามารถรับชมได้ในช่วงเวลา 11.00 น. และ 17.00 น. สองเวลา(เฉพาะหน้าร้อน) ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวผู้คนจะจดจ้องรอระยะเวลาที่เสียงระฆังดนตรีจะดังอยู่ ณ จุดใดจุดหนึ่ง ของจัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ จนปัจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ใช้เป็นจุดนัดพบ จุดเช็คอินถ่ายภาพของนักท่องเที่ยวทั่วสารทิศ ทั้งในและต่างประเทศ
เนื่องจากจัตุรัสมาเรียนพลาตซ์ Marienplatz ตั้งอยู่ใจกลางเมืองจัตุรัสแห่งนี้จึงได้ชื่อว่าเป็นแหล่งรวมฝูงชนเพื่อกิจกรรม เป็นกิจกรรมมวลชนที่รวมกันเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน จึงทำให้สถานทีแห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนเดินถนน นักแสดงเปิดหมวก และนักท่องเที่ยวมากมาย นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่ฮิตในการรวมตัวกันฉลองชัยเมื่อทีมฟุตบอลท้องถิ่นแข่งขันชนะ หรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ แลนด์มาร์คด้านหน้า อนุสาวรีย์ที่เป็นลักษณะเสาสูง ด้านบนมีประติมากรรมสีทอง ส่วนฐานด้านล่าง มีประติมากรรมโดยรอบ และปลูกดอกไม้ประดับ ณ จุดเล็ก ๆ แห่งนี้ นักท่องเที่ยวมักอาศัยร่มเงาที่มีไม่มากนั่งหลบแดดทำกิจกรรมส่วนตัวก่อนเดินทางต่อต่อ
สนามฟุตบอลอัลลีอันทซ์อาเรนา ( Allianz Arena)
สนามฟุตบอลอัลลีอันทซ์อาเรนา ( Allianz Arena) เดิมเรียกว่า ฟีฟ่า เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม มิวนิก ชาวเยอรมัน มักเรียกกันว่าเรือยาง (Schlauchboot) ใช้ในช่วงการแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2006เป็นสนามฟุตบอลในประเทศเยอรมนี ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเมืองมิวนิก เริ่มก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2545 และเสร็จสมบูรณ์เปิดใช้งานเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปีเศษ โดยสถาปนิก เฮอร์ซอก แอนด์ เดอ มิวรอน อารัปสปอร์ต รวมค่าก่อสร้างทั้งหมด 340 ล้านยูโร ปัจจุบันทีมที่ใช้สนามคือสโมสรฟุตบอลไบเอิร์นมิวนิก
ร้านอาหารแนะนำที่ขึ้นชื่อของมิวนิค
1. Hofbrauhaus
โรงเบียร์โฮฟบรอยเฮาส์ นั้นก็นับว่ามีความน่าสนใจมากอีกเเห่งของมิวนิคตั้งอยู่ใจกลางเมืองมิวนิคในบริเวณที่เรียกว่าจัตุรัส Platzl ซึ่งนับได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของเมืองเเห่งนี้ที่นักท่องเที่ยวไม่ว่าจะมาจากจุดไหนก็จะมาเที่ยวชมกันอย่างมาก เพราะชื่อเสียงในรสชาติของเบียร์ที่นี่นั้นเป็นที่ยอมรับกันอย่างมากเลยทีเดียว เเละมีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวที่ใครมาเที่ยวมิวนิคเเล้วต้องไม่พลาดเเวะมาชิมกันซักครั้ง เเต่เดิมนั้นโฮฟบรอยเฮาส์ ก่อตั้งขึ้นมาจากดยุคเเห่งบาวาเรีย เมื่อปี ค.ศ.1589 เพราะต้องการตอบสนองความเบื่อหน่ายของชนชั้นสูงในรสชาติของเบียร์เเบบเดิมๆ จึงสร้างโรงหมักเบียร์ขึ้นมาเเล้วเปิดให้เฉพาะชนชั้นสูงเท่านั้นที่สามารถมาลองลิ้มชิมรสชาติกันได้ ก่อนที่ในปี ค.ศ.1828 จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปได้เข้ามาใช้บริการเเละนับเป็นการเริ่มต้นสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเบียร์เเห่งนี้มีชื่อเสียงไปทั่วโลกเลยทีเดียว เเละที่นี่ก็ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ของเยอรมนีอยู่เรื่อยๆ เพราะเป็นที่ประชุมประจำของพรรคนาซี เเละเคยต้อนรับผู้มีชื่อเสียงอย่าง วลาดิเมียร์ เลนิน มาเเล้วในช่วงที่เขามาอภิปรายถึงลัทธิคอมมิวนิสต์ให้กับ สมาชิกพรรค Bavarian Communist ฟังซึ่งหนึ่งในนั้นมี อดอฟล์ ฮิตเลอร์ รวมอยู่ด้วย
2. Ratskeller Munich
อีกหนึ่งร้านอาหารถ้ามาเมืองมิวนิคเราแนะนำคือร้าน Ratskeller Restaurant ที่ตั้งอยู่ใต้อาคาร Town Hall ที่เป็นสัญลักษณ์ของย่าน Marienplatz ถ้าเราสงเกตุจากหน้าร้านดูเล็กๆ แต่เมื่อเดินผ่านประตูเข้าแล้วเดินลงบันไดไปนิดหนึ่งแล้วจะเห็นกับบรรยากาศสุดอลังการเหมือนกับว่าเรามานั่งทานข้าวในพระราชวังเลยค่ะความใหญ่โตโออ่าของห้องโถงใหญ่การตกแต่งของร้านสไตล์บาวาเรียนท้องถิ่นและฟรักโกเนีย เมนูที่แนะนำเป็น ขาหมูเยอรมันที่ขึ้นชื่อ และมีเมนูอื่นๆเช่น สเต็กเนื้อลูกวัว พาสต้าสแบบเยอรมัน ไส้กรอกเยอรมัน ฯลฯ ถ้าท่านมาที่มิวนิกแล้วลองหาโอกาศไปชิมกันได้นะค่ะ
3.Lowenbrau
Lowenbrau (แปลว่า เบียร์ของสิงโต) เดิมเรียกกันว่า เบียร์ยิว สร้างขึ้นปี 1383 และถูกยกให้เป็นเบียร์ที่ดีที่สุดอับดับ 4ของมิวนิค รสชาติจะออกหวานๆซ่าๆ คล้ายๆกับเบียร์สิงห์บ้านเราแต่ว่าจะขมน้อยกว่าค่ะ ถือว่าน่าลิ้มลองกันมากๆเลยทีเดียว
เครดิตรูปภาพจาก https://allianz-arena.com // commons.wikimedia.org